พลาเซนต้า คือ รกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเพื่อเลี้ยงดูตัวอ่อนให้เจริญเติบโต และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวอ่อน placenta ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีประโยชน์หลากหลายชนิด และมี stem cell stimulating factor ซึ่งช่วยกระตุ้น stem cell ในร่างกายที่อยู่ในภาวะพัก ให้กลับมามี activity ในการซ่อมแซมร่างกาย placenta peptide สามารถกระตุ้น stem cell ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติถึง 8 เท่า ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายผลัดเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพแล้วสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ เพื่อฟื้นฟูการทำงานของร่างกาย
Fresh Placenta
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตราการแบ่งเซลล์ภายในร่างกายลดลง เซลล์ที่เสื่อมสภาพกลายเป็นสาเหตุหนึ่งของการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังหลากหลายชนิด การดูแลฟื้นฟูร่างกายด้วย Fresh placenta เป็นการใช้รกจากแกะเพื่อกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ ฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพหรืออยู่ในภาวะพักให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
– ฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
– ปรับสมดุลการทำงานของร่างกายทั้งระบบต่อมไร้ท่อและระบบเมตาบอลิก
– ปรับสมดุลฮอร์โมน ชะลอการเกิดภาวะวัยทอง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
– ฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังการผ่าตัด
– กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวมีความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย แลดูอ่อนกว่าวัย
– ส่งเสริมการนอนหลับให้มีประสิทธิภาพ ลดอาการอ่อนเพลีย

Placenta Extract
Human Placenta ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสูง เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกรกจากหญิงมีครรภ์ที่ได้ผ่านการตรวจสุขภาพทั้งก่อน ระหว่าง และหลังตั้งครรภ์ มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคทางกรรมพันธุ์และโรคติดเชื้อต่างๆ รกที่ได้หลังคลอดโดยทันทีจะถูกนำไปแช่แข็งในไนโตรเจนเหลวและนำมาแยกเซลล์สกัดเพื่อนำมาใช้ฉีด .
– ฮอร์โมน (HCG ) มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันส่วนเกิน
– ปรับสมดุลของฮอร์โมนทั้งในเพศหญิงและเพศชาย ให้ทำงานเป็นปกติ รักษาสภาวะวัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน (Menopause) และบรรเทาโรคเฉพาะสตรี เช่น อาการปวดประจำเดือน นอกจากนี้ ยังใช้บำบัดอาการวัยทองของผู้ชาย (Andropause) ที่มักเกิดหลังอายุ 60 ปี อันประกอบด้วย อารมณ์หงุดหงิดง่าย ใจน้อย ฉุนเฉียวง่าย อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ขี้ลืม นอนไม่หลับ
– ช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายส่วนต่างๆ ได้รับโลหิต สารอาหาร และออกซิเจนเพิ่มขึ้น ผิวพรรณจะสดใส เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอย
– อาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดในสมองดีขึ้น เช่น ไมเกรน เสียงหึ่งใบหู (Tinnitus) อาการวิงเวียนบ้านหมุน และทำให้การทำงานของระบบชีวเคมีในร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
– ปรับสมดุลของระบบภูมิต้านทาน บำบัดกลุ่มอาการของโรคภูมิเพี้ยน (Autoimmune Diseases) เช่น รูห์มาตอยด์ โรคลูปัส หรือโรคพุ่มพวง และกลุ่มภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น โรคเอดส์ วัณโรค การใช้สเตียรอยด์ เคมีบำบัด และรังสีรักษา จะทำให้อาการแทรกซ้อนทุเลาขึ้น