Open Every Day
022772818

How to : สุขภาพดีที่เราสร้างได้ สไตล์ญี่ปุ่น

6 ส.ค., 2020 | bangkok7_bangkok77 | No Comments

How to : สุขภาพดีที่เราสร้างได้ สไตล์ญี่ปุ่น

        ในปัจจุบัน หลายๆคนเริ่มหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น การเริ่มออกกำลังกายรวมไปถึงการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ  หนึ่งในประเทศที่น่าเรียนรู้เป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากไทยเรามากนัก นั่นคือประเทศญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ

ดื่มชาเขียว

        ชาเขียวญี่ปุ่นที่เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากประโยชน์ที่มีอยู่มากมายนั่นเอง การดื่มชาเขียวนั้นสามารถช่วยลดไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอไรด์ลงได้ ที่สำคัญในชาเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) ที่มีผลต่อการยับยั้งและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้หลายชนิด จากผลการศึกษาพบว่าคนที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำนั้นมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งต่ำ เนื่องจากชาเขียวมีสารแอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) ชนิดหนึ่ง ชื่อว่าคาเทชิน (Catechin) ที่ออกฤทธิ์ช่วยต้านฟรีแรดิคัล และสารชนิดนี้ยังช่วยยับยั้งการดูดซึม และย่อยอาหารประเภทแป้ง ลดไขมันในเลือดได้อีกด้วยค่ะ

 Tips : รู้หรือไม่ว่าการดื่มชาเขียวแบบร้อนจะได้สารคาเทชินอย่างเต็มที่มากกว่าแบบเย็นดังนั้นหากสาวๆ ต้องการดื่มชาเขียวเพื่อลดน้ำหนัก ก็ควรหันมาดื่มแบบร้อนจะดีกว่า หรือใครที่อยากมีสุขภาพดีเหมือนคนญี่ปุ่น ควรดื่มชาเขียวที่ไม่หวาน เพื่อสุขภาพที่ดีและบอกลาไขมันส่วนเกินนั่นเองค่ะ

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

      หากสังเกตดีๆ อาหารญี่ปุ่นนั้นมีพื้นฐานคือ ข้าว ปลา ถั่วเหลือง ผัก และผลไม้ค่ะ สำหรับปลาก็จะเป็นปลาทะเล อย่างปลาแซลมอนหรือปลาทูน่า ที่อุดมไปด้วย ไขมัน โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ในปริมาณสูง อีกทั้งยังมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคหัวใจ ทำให้ร่างกายมีความต้านทานโรคสูง ส่วนอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองที่มักจะถูกนำมาเสิร์ฟคู่กับอาหารจานหลักที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็คือ มิโซะ ซึ่งได้มาจากการแปรรูปอย่างหนึ่งของถั่วเหลืองโดยวิธีการหมักค่ะ มิโซะนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการและโปรตีนสูง มีรสชาติคล้ายสารสกัดจากเนื้อสัตว์ และยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการ นับเป็นการเพิ่มโปรตีนในอาหาร และยังช่วยให้อาหารอร่อยเพิ่มขึ้นอีกด้วย

Tips : ปลาแซลมอนเป็นปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติสำคัญในการเสริมสร้างระบบประสาทและสมอง โดยโอเมก้า 3 จะทำหน้าที่บำรุงสมอง ช่วยให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสามารถในการจดจำ นอกจากนั้นวิตามินเอในปลาแซลมอนเมื่อทำงานร่วมกับกรดอะมิโนจะช่วยป้องกันความเสื่อมของระบบประสาทเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นคนที่รับประทานแซลมอนเป็นประจำจะทำให้อัตราการเกิดโรคทางประสาทจำพวกโรคพาร์กินสันลดน้อยลงค่ะ นอกจากประโยชน์ที่มีมากมายแล้ว ปลาแซลมอนยังมีรสชาติอร่อย สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอนย่างเกลือ สเต็กปลาแซลมอน ข้าวต้มปลาแซลมอน แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้วล่ะค่ะ

ควบคุมการทานอาหารไม่ให้อิ่มมากจนเกินไป

     การกินนับว่าเป็นความสุขในชีวิตของหลายๆคน แต่รู้หรือไม่ว่าหากกินอาหารในปริมาณที่มากจนเกินไปนั้นจะส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าปวดท้อง ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก ระบบไหลเวียนเลือดทำงานผิดปกติ เหนื่อย อ่อนเพลียง่ายและที่สำคัญคือทำให้อ้วนอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่มีปัญหาน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือเริ่มรู้สึกว่าใส่เสื้อผ้าแล้วอึดอัด ต้องลองเทคนิคนี้ของคนญี่ปุ่น โดยให้กินอาหารคำเล็กๆ และเคี้ยวช้าๆ จนละเอียดแล้วค่อยกลืน  กินแบบพออิ่ม และต้องหยุดกินก่อนที่จะอิ่มแบบเต็มที่หรืออิ่มจนแน่นท้องค่ะ หลังจากนั้นให้รอประมาณ 20 นาทีเพื่อให้มั่นใจว่ารู้สึกอิ่มจริงๆ วิธีการนี้จะทำให้คุณไม่อิ่มแน่นมากจนเกินไปในแต่ละมื้อ เป็นการกินในปริมาณที่สมดุลและพอเหมาะกับความต้องการของร่างกายค่ะ

ออกกำลังกาย

    คนญี่ปุ่นนั้นไม่ค่อยนิยมการเข้ายิมหรือฟิตเนสกันค่ะ การออกกำลังกายของพวกเค้าจะผสมผสานอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่าการตั้งใจไปออกกำลังกายในยิม ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปทำงาน การปั่นจักรยานไปโรงเรียนหรือการใช้บันไดแทนลิฟต์ สาวๆอย่าคิดว่าการเดินไม่มีประโยชน์นะคะ เพราะการเดินที่พอเหมาะในแต่ละวันช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น นอกจากนี้การเดินยังช่วยขับสารพิษทางรูขุมขน เพิ่มออกซิเจนเข้าไปในกระแสเลือด และช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโรคต่างๆได้ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดค่ะ รู้แบบนี้แล้วก็อย่ารอช้า เริ่มหันมาเดินกันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ ถ้าจะขึ้นลงแค่ชั้นหรือสองชั้นก็ลองใช้บันไดแทนลิฟต์ นอกจากจะช่วยชาติประหยัดไฟแล้วยังผอมลงแบบไม่ทันรู้ตัวอีกต่างหาก เรียกว่าสุขภาพดีสร้างได้ไม่ยาก ขอแค่ตั้งใจและเริ่มลงมือทำแค่นั้นเองค่ะ

Tips : การออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างสม่ำเสมอและมากพอในแต่ละสัปดาห์นั้นช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ค่ะ โดยมีงานวิจัยออกมายืนยันแล้วว่าหากคุณเดินเร็วในระดับที่หัวใจเพิ่มอัตราการเต้นได้ 10,000 ก้าวต่อวัน (3 วันต่อสัปดาห์) จะช่วยในเรื่องของความดันโลหิตได้เป็นอย่างดี หากสามารถทำได้ทุกวันก็จะช่วยในเรื่องของสมดุลน้ำตาลในร่างกายและเพิ่มปริมาณไขมันที่ดีภายในร่างกายได้ และหากสามารถเพิ่มการเดินเป็นวันละ 12,000-15,000 ก้าวได้ ก็จะช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย รวมถึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้ออีกด้วยล่ะค่ะ

ติดตามข่าวสารสุขภาพจากเราได้ที่
💚 Line : @BAAC https://lin.ee/lpiSXfM 
💙 Facebook : BAAC-Bangkok Anti-Aging Center
💜 Instagraminstagram.com/baac_center/
💛 Youtubeyoutube.com/c/BAACBangkokAntiAgingCenter
🧡 Web Site www.bangkokanti-aging.com
❤️ Twittertwitter.com/Baac_Center
☎️ Tel : 022772818

Write Reviews

Leave a Comment

Please Post Your Comments & Reviews

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

No Comments & Reviews