เพราะชอบกินเค็ม จึง… อ้วน
ในปัจจุบันนี้โรคอ้วนและอ้วนลงพุงมีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุของการเกิดนั้นมาจากการที่กินมากเกินไป (overeating) จากการศึกษาพบว่ารสชาติของอาหารเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนกินอาหารมากขึ้น

โดยพบว่า รสเค็มเป็นรสที่ส่งผลต่อการกินมากที่สุด รสชาติเค็มเปรียบเหมือนยาเสพติดโดยเร่งการผลิตโดปามีน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองส่งผลต่ออารมณ์ความพึงพอใจ ความสุข ทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร เมื่อติดรสชาติเค็มแล้วหากไม่ได้รสชาติเค็มก็จะรู้สึกว่าอาหารไม่อร่อย รู้สึกหงุดหงิด อารมณ์เสีย
นอกจากนี้ผู้ที่ติดรสชาติเค็มเพียงแค่นึกถึงอาหารที่มีรสชาติเค็มก็สามารถทำให้เกิดความรู้หิวและอยากอาหารขึ้นมา จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ที่ชอบกินเค็มอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนได้ง่ายกว่าผู้ที่ไม่ชอบกินเค็มเนื่องมาจากพอความรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น กินก็มากขึ้น โอกาสการได้รับพลังงานที่มาจากอาหารก็จะมากขึ้นตามไปด้วยค่ะ

สาวๆ คนไหนที่กำลังกลุ้มใจกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำยังไงก็ไม่ยอมทั้งที่เลือกกินอาหารดีๆ ก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว มาอ่านตรงนี้ค่ะ เพราะสิ่งที่ทำให้เราอ้วนอาจมาจากอาหารรสเค็มที่เราชอบกินโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะคะ
ความอ้วนเกิดจากการกินอาหารมากเกินความต้องการของร่างกายค่ะ (Overeating) ซึ่งอาจเกิดจากชอบรสชาติอาหาร ความรู้สึกอยาก(แต่ไม่ได้หิว) หรือ แม้แต่ความผิดปกติของสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกหิวตลอดเวลา ยิ่งถ้ารวมกับการกินที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ ไม่ออกกำลังกายด้วยแล้วล่ะก็ โรคอ้วนก็มาเยือนรูปร่างเราได้ง่ายๆ เลยค่ะ
สิ่งที่แสดงว่าคุณอาจได้รับความเค็มเกิน

ชอบกินอาหารแปรรูป เป็นประจำ การที่อาหารแปรรูปเติมเกลือ (โซเดียม) เพื่อให้รสชาติเข้มข้น ยืดอายุการเก็บรักษา ผู้ที่ชอบกินอาหารแปรรูปมักจะชอบกินอาหารรสชาติเค็มมากกว่าผู้ที่ไม่ชอบกินอาหารแปรรูป

เมื่อตรวจเลือดจะพบภาวะโซเดียมสูงในเลือด คือสูงมากว่า 145 mmol/L โดยอาการแสดงเช่น คอแห้ง กระหายน้ำ ปวดศีรษะ อารมณ์หงุดหงิด หากวัดความดันโลหิตจะพบความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการไหลเวียนของเลือด ช็อก หมดสติได้

บวม เนื่องมาจากเกลือสามารถทำให้เกิดการกักน้ำในร่างกายเพื่อใช้ในการละลายความเข้มข้นของโซเดียมสามารถสังเกตุได้จากท้องป่อง หน้าบวม แขนบวม

ชอบรับประทานอาหารรสจัด อาหารส่วนใหญ่ที่มีรสจัด เช่นเผ็ดจัด จะมีความเค็มตามมาด้วย

ขนมหรือของว่างที่ชอบกินมักจะอยู่ในรูปของขนมกรุบกรอบ ขนมกระป๋อง เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ปลาหมึกกรอบ ถั่วทอด ขนมปังกรอบ

ชอบเติมเกลือ ซีอิ๊ว น้ำปลา หรือซ๊อสต่างๆในอาหารก่อนกิน
ถ้าใครกำลังกินเค็มอยู่ ลองมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินกันด้วยวิธีนี้ค่ะ
- เน้นกินอาหารที่ผ่านการปรุงรสน้อย หรือใส่ส่วนผสมน้อยๆ เช่น สลัดผักผลไม้ สเต็กอกไก่อบพริกไทยดำ เป็นต้น
- หากเป็นอาหารสำเร็จรูป ขนม หรือเครื่องดื่ม ควรอ่านฉลากโภชนาการที่กำกับไว้ โดยปริมาณโซเดียมที่ร่างกายต้องการคือ ไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ ประมาณ 6 กรัม (1 ช้อนชา) (คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล)
- เลี่ยงอาหารประเภทจังก์ฟู้ด หรือขนมคบเคี้ยวเพราะมีโซเดียมสูง
- ดื่มน้ำเยอะๆ ในระหว่างวัน จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น และช่วยขับสารพิษต่างๆ ในร่างกายออกมาทางปัสสาวะค่ะ
- เลือกของว่างระหว่างจากขนมกรุบกรอบ แครกเกอร์รสเค็ม หรือขนมรสเค็ม เป็นผลไม้ ขนมปังโฮวีต หรือ เครื่องดื่มธัญพืช เป็นต้น

ปัจจุบันมีบริการทั้งหมด 3 สาขา (สุทธิสาร / บางนา / สยาม) สำหรับติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพที่ตรงจุด อย่ารอให้สุขภาพเสื่อมลงแล้วค่อยรักษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อเข้ามาได้
ที่เบอร์ 02-2772818 หรือแอดไลน์ ID : @BAAC
✅ Line : https://lin.ee/lpiSXfM คลิก
Facebook Inbox : BAAC-Bangkok Anti-Aging Center
✅ Inbox : m.me/BangkokAntiAgingCenter คลิก
Bangkok Anti Aging Center – BAAC (Sutthisan) 02-2772893 / 02-2772894
Bangkok Anti Aging Center – BAAC (Bangna) 02-0075115/ 02-0075116
Bangkok Anti Aging Center – BAAC (Pathumwan or Siam) 02-0487032/ 02-0487034
Write Reviews
Leave a Comment
No Comments & Reviews