ประโยชน์ดีๆของกะหล่ำปลี
ประโยชน์ที่อยู่ในกะหล่ำปลี ที่ไม่ควรมองข้าม กะหล่ำปลีเป็นผักที่เราใช้บริโภคประจำวันไม่ว่าจะเป็นการนำไปผสมกับแกง หรือว่าเป็นอาหารไว้กินกับของคาว ส้มตำ ลาบ อาจจะนำไปลวกกินกับน้ำพริก ซึ่งเป็นผักที่ให้ความอร่อยนอกจากนั้นยังมีคุณค่าทางอาหารไม่ต่างไปจาก ผักที่เป็นสีเขียวแต่ก็มีความพิเศษในด้านการต้านโรค ประโยชน์ของกะหล่ำปีที่ต้านโรคคือ

กะหล่ำปลีดิบ มีวิตามินซีสูง การนำไปปรุงอาหารควรใช้วิธีการนึ่ง จะช่วยคงคุณค่าของสารอาหารไว้ได้ดีที่สุด หรือจะรับประทานเป็นผักสลัดก็ได้ ทั้งนี้ไม่ควรนำไปนึ่ง ต้ม ผัดนานจนเกินไป
ผักกะหล่ำปลี นั้นมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมของไอโอดีน ผลที่ตามมาก็คืออาจทำให้เป็นคอหอยพอกได้ แต่สารพิษที่ว่านี้จะถูกทำลายด้วยวิธีการนำไปต้ม ดังนั้นจึงควรรับประทานกะหล่ำปลีที่ผ่านการปรุงสุกแล้วจะดีกว่า แม้ว่าวิตามินจะหายไปบ้างก็ตาม

ก่อนการนำมารับประทานก็ควรล้างให้สะอาดก่อน ด้วยวิธีการลอกหรือ ปอกเปลือกออกแล้วแช่น้ำสะอาดประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งจะช่วยลดสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 25-72 ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด และสำหรับวิธีอื่น ๆ ก็เช่น แช่น้ำปูนใส, การใช้ความร้อน, แช่น้ำด่างทับทิม, ล้างด้วยน้ำไหลจากก๊อก, แช่น้ำซาวข้าว, แช่น้ำส้มสายชูหรือเกลือป่น, แช่น้ำยาล้างผัก เป็นต้น
สรรพคุณของกะหล่ำปลี
– ต้านโรคมะเร็ง มีสารต้านอนุมูลอิสระมาก มีผลในหารบำรุงหัวใจและหลอดเลือดและลดการอักเสบ
– ต้านเบาหวาน กะหล่ำปลีสีแดงที่เราเห็นหรือว่าสีม่วงสามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดของคนเรา ได้เป็นอย่างดี
– ต้านโรคอ้วน กะหล่ำปลีเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักเป็นอย่างยิ่ง
– ป้องกันร่างกาย เป็นผักชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง เป็นการป้องกันเชื้อโรคต่างๆที่จะเข้าสู่ร่างกาย
ประโยชน์ของกะหล่ำปี
- ช่วยแก้รสเผ็ดร้อนได้ สังเกตได้จากส้มตำ แม่ค้ามักจะใส่กะหล่ำปลีสด ๆ มาเป็นเครื่องเคียงให้รับประทานนั่นเอง
- ใช้ประกอบอาหาร โดยเมนูกะหล่ำปลีก็เช่น กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา, ผัดกะหล่ำปลีใส่ไข่, กะหล่ำปลีตุ๋นซี่โครงอ่อน, กะหล่ำปลีตุ๋นเอ็นวัว, กะหล่ำปลีต้มยัดไส้หมู, กะหล่ำปลีม้วนใส่หมูบดปรุงรส, ถุงทองกะหล่ำปลี, ต้มกะหล่ำปลีเจ, แกงส้ม, แกงจืด, ห่อหมก, รับประทานร่วมกับน้ำพริก, ทำเป็นสลัด ฯลฯ

คุณค่าทางโภชนาการของกะหล่ำปลีดิบต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 25 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 5.8 กรัม
- น้ำตาล 3.2 กรัม
- เส้นใย 2.5 กรัม
- ไขมัน 0.1 กรัม
- โปรตีน 1.28 กรัม
- วิตามินบี 1 0.061 มิลลิกรัม 5%
- วิตามินบี 2 0.040 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 3 0.234 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 5 0.212 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 6 0.124 มิลลิกรัม 10%
- วิตามินบี 9 43 ไมโครกรัม 11%
- วิตามินซี 36.6 มิลลิกรัม 44%
- ธาตุแคลเซียม 14 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 40 มิลลิกรัม 4%
- ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.16 มิลลิกรัม 8%
- ธาตุฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม 4%
- ธาตุโพแทสเซียม 170 มิลลิกรัม 4%
- ธาตุโซเดียม 18 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุสังกะสี 0.18 มิลลิกรัม 2%
- ฟลูออไรด์ 1 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
ปัจจุบันมีบริการทั้งหมด 3 สาขา สำหรับติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพที่ตรงจุด หากท่านมีปัญหาข้อเข่าเสื่อม หรือต้องการตรวจเช็คระดับความเสื่อมของกระดูก และข้อเข่า สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อเข้ามาได้
ที่เบอร์ 02-2772818 หรือแอดไลน์ ID : @BAAC
✅ Line : https://lin.ee/lpiSXfM คลิก
Facebook Inbox : BAAC-Bangkok Anti-Aging Center
✅ Inbox : m.me/BangkokAntiAgingCenter คลิก
Bangkok Anti Aging Center – BAAC (Sutthisan) 02-2772893 / 02-2772894
Bangkok Anti Aging Center – BAAC (Bangna) 02-0075115/ 02-0075116
Bangkok Anti Aging Center – BAAC (Pathumwan or Siam) 02-0487032/ 02-0487034
Write Reviews
Leave a Comment
No Comments & Reviews